5 โควตาใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2024 ของทีมพรีเมียร์ลีก
จากการที่สหพันธ์ลูกหนังยุโรปได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันใหม่ในฤดูกาล 2024/25 ซึ่งทางยูฟ่าจะเพิ่มทีมจากเดิมมีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 32 ทีมไปเป็น 36 ทีม โดย 4 โควตาที่ถูกเพิ่มเข้ามานั้นทาง ยูฟ่า จะให้กับทีมอันดับ 3 จากลีกที่รั้งอันดับ 5 ของยูฟ่า 1 โควตา ซึ่งทางยูฟ่าเคยประกาศเอาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อปี 2022 ที่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการไปแล้ว
นอกเหนือจากนี้จะมอบให้กับทีมที่เป็นแชมป์ลีกที่อยู่ต่ำกว่าท็อป 10 ของยุโรป ซึ่งต้องผ่านการแข่งขันรอบคัดเลือก มาก่อนอีก 1 โควตา ส่วนอีก 2 โควตาจะให้ทีมจากลีกที่มีค่าสัมประสิทธิ์สูงที่สุด 2 ประเทศ นั่นหมายความว่าในปี 2024 นี้ สโมรในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ มีสิทธิ์ได้โควตาไปเล่นฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากถึง 5 ทีม ภายในฤดูกาลเดียวกัน โดยที่ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยเกิดรูปแบบการแข่งขันในลักษณะนี้มาก่อนเลย
จากรูปแบบที่ประกาศออกมาจะทำให้การแข่งขันเข้มข้นมากยิ่งขึ้น และมีเกมเพิ่มจากเดิม 125 เกมเป็น 189 เกม โดยแต่ละทีมจะได้ลงเล่น 8 นัดเป็นอย่างน้อย แบ่งเป็นเกมเหย้า 4 เกม และเกมเยือน 4 เกม โดยที่จะพบกับคู่แข่งไม่ซ้ำกันทั้ง 8 เกม ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบเดิมที่มี 8 กลุ่ม ลงเล่นในรอบแรก โดยลงแข่งขันทีมละ 4 เกมในรอบดังกล่าว
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นการปรับโครงสร้างการแข่งขันครั้งใหญ่ของฟุตบอลถ้วยยุโรปในรอบกว่า 31 ปี ซึ่งพรีเมียร์ลีกอาจจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด จากรูปแบบใหม่ที่ ยูฟ่า ประกาศออกมา ทำให้ลีกอังกฤษที่เดิมทีจะให้โควตา 4 ที่ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สำหรับสโมสรที่จบท็อป 4 หรือ 4 อันดับหัวตาราง ส่วนอีกโควตาที่จะเพิ่มเข้ามานั่นคือ ทีมที่ได้อันดับ 5 ในซีซั่นปัจจุบันก็จะได้สิทธิ์ไปเล่นถ้วยบิ๊กเอียร์ด้วย
แต่ตามรูปแบบการแข่งใหม่นี้ ในกรณีถ้าเกิดว่าทีมจากอังกฤษทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในฟุตบอลถ้วยยุโรปจนได้โควตาพิเศษนั่นคือรายการ แชมป์ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก และแชมป์ยูโรปา ลีก ก็จะมีสูงสุดทั้งสิ้น 7 ทีม แต่มีเงื่อนไขว่า 7 ทีม นี้ต้องไม่ใช่ทีมเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้โควตาจากการจบ 4 อันดับแรก, แอสตัน วิลล่า ได้โควตาจากการจบอันดับ 5, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้โควตาจากการเป็นแชมป์ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก และ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จะได้โควตาจากการเป็นแชมป์ยูโรปา ลีก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2023 รอบ 16 ทีม มีทีมอังกฤษเพียง 2 ทีมที่ยังเหลือรอดอยู่นั่นคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซนอล ส่วน ยูโรปา ลีก ยังมีทีมอังกฤษมากถึง 3 ทีม ประกอบด้วย ลิเวอร์พูล, ไบรท์ตัน อัลเบี้ยน และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ฟุตบอลถ้วยรองของยุโรปในตอนนี้
ขณะที่สถานการณ์ 5 อันดับแรกของ พรีเมียร์ลีก ไล่เรียงจากจ่าฝูง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซนอล, แอสตัน วิลล่า และอันดับ 5 เป็น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
หากจบฤดูกาล อันดับยังเป็นไปตามข้างต้น แต่กรณี แมนฯ ซิตี้ ได้แชมป์ UCL ส่วน ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ ยูโรปาลีก ก็เท่ากับว่า อังกฤษจะมีแค่ 5 ทีมตามโควตาปกติที่จะได้เข้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เนื่องจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ หงส์แดง จบอันดับท็อป 5 อยู่แล้ว
หากไล่เรียงจากความห่างของตารางคะแนนศึกพรีเมียร์ลีก ถือว่ายังมีโอกาสเยอะพอสมควรที่อันดับ 4 และ 5 จะเปลี่ยนมือ อย่างไรก็ดีภาพรวมทั้งหมด มีความเป็นไปได้ยากอยู่เหมือนกัน ที่เราจะได้เห็นทีมจากอังกฤษที่เข้าไปโลดแล่นใน UCL ซีซั่นหน้าพร้อมกันถึง 7 ทีม (ในกรณีที่ทีมจากท็อป 5 ไม่ได้แชมป์บอลถ้วยยุโรป)
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน