ตกผลึก บาสเกตบอลชาย ทีมชาติไทย (ข่าวเอเชียนเกมส์)
เส้นทางสำหรับทีมชาติไทยในการแข่งขันบาสเกตบอลชายไทย 5×5 ในรายการ เอเชียนเกมส์ 2018 ที่เมือง จาการ์ตา และ ปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย ได้สิ้นสุดลง หลังจากที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยผลงานชนะ 1 แพ้ 2 ในกลุ่ม A เป็นทีมอันดับสุดท้ายในตาราง
โดยในเกมแรกนั้น สามารถเอาชนะทีมชาติมองโกเลียไปได้อย่างสุดลุ้น 87-86 เกมต่อมาแพ้ให้กับคู่ปรับทีมชาติอินโดนีเซียอย่างน่าเจ็บใจ 98-86 และท้ายสุดพ่ายทีมชาติเกาหลีไปอย่างขาดลอย 117-77
เมื่อแข่งขันสิ้นสุดลงแล้ว ก็ถึงเวลามานั่งตกผลึกกันบ้าง ว่า ทีมชาติไทยเราได้บทเรียนอะไรจากการส่งแข่งขันครั้งนี้กันบ้าง
ในเกมแรกที่ทีมชาติไทยเจอกับทีมชาติมองโกเลีย ถือว่า มีความได้เปรียบอยู่เกือบตลอดทั้งเกม และ ถือแต้มนำเข้าสู่ช่วงท้าย แต่ก็โดนตีตื้นขึ้นมา จนต้องลุ้นหายใจกันไม่ทั่วท้องกว่าจะเอาชนะมาได้
อย่างแรกที่ต้องบอกคือ ชัยชนะครั้งนี้ เป็นผลงานที่โอเค ทีมชาติมองโกเลีย แม้หลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้มองว่าเป็นชาติที่เก่งบาสเกตบอลเท่าไหร่นัก แต่เขาก็เป็นประเทศที่มีลีกกึ่งอาชีพแข่งขันอยู่ ซึ่งผู้เล่นในทีมชาติก็มาจากกลุ่มผู้เล่นเหล่านั้น ตัวเก่ง ซานชีร์ ตุงกาลัก ที่โชว์ฟอร์มเหนือจนเกือบพลิกมาเอาชนะได้ ก็มีชื่อเสียงในวงการบาสพอสมควร จนเคยได้เป็น ตัว เอเชียน อิมพอร์ต ในลีก ฟิลิปปินส์ (PBA) มาแล้ว ทีมชาติมองโกเลียเป็นทีมที่มีศักยภาพที่ดี รายการ เอเชียนเกมส์สองครั้งที่ผ่านมาก็ได้อันดับที่ 8 และ 9 ตามลำดับ เพราะฉะนั้น มองโกเลียไม่ได้หมู และเราก็เห็นกันในวันต่อ ๆ มา กับการที่มองโกเลียไล่ต้อนทีมชาติอินโดนีเซีย จนเกือบพลิกเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้
ชัยชนะเกมนี้ เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่า เกมนี้เป็นเกมที่ตอกย้ำตำแหน่งที่ขาดไปของทีมชาติไทยมาตลอด 2-3 รายการที่ผ่านๆ มา นั่นก็คือ ตำแหน่งการ์ดจ่ายนั่นเอง สำหรับ การ์ดในทีมชาติชุดนี้ พีท บัณฑิต หลักหาญ, โส โสฬส สุนทรศิริ, และ เจมส์ ศุภวิชญ์ ขุขันถิ่น ต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็เห็นได้ว่ารูปเกมการบุกของทีมชาติไทยค่อยข้างที่จะตันในหลายๆ ครั้ง สำหรับสามการ์ดที่เรียกมานี้ เราเห็นกันมาใน TBL เช่นกันว่า พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในบทบาท จอมทัพ เท่าไหร่นัก แม้จะถือการ์ดอยู่เรื่อย ๆ ก็ตาม อย่าง พีท ก็มีเล่นการ์ดจ่ายบ้าง แต่การถือบอลเป็นหลักกับทีมไทยเครื่องสนามในปีที่ผ่านมา ไปตกอยู่กับ จอชัว มันซอน และ เอเจ มานดานี่ เป็นหลัก เช่นเดียวกัน โส กับ เจมส์ ต่างก็ไม่ค่อยได้ดำเนินเกมบุกด้วยตัวเองนักในเกมใหญ่ๆ กับทีม โมโน แวมไพร์ ที่ใช้ เจสัน บริกแมน ยิ่งสำหรับ โส ยังมีดันไปเล่นเป็นปีกด้วยซ้ำ
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ หลายๆ ครั้งในสถานการณ์ที่ควรมีจอมทัพมาคุมเกม ทีมชาติไทยกลับขาดบุคคลากรที่จะทำหน้าที่นี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และก็มีรูปเกมที่ไม่นิ่ง ยิ่งโดยเฉพาะช่วงท้ายเกม
ถ้าจะเทียบให้เห็น ก็สามารถเปรียบเทียบกับทีมชาติอินโดนีเซีย ที่ทีมชาติไทยพ่ายมาติดๆ กัน 4 ครั้งที่ผ่านมา พวกเขาได้เปรียบในด้านความเก๋าของการ์ดจ่าย ทั้ง มาริโอ้ วุยซาง และ ซาเวริอุส ปราวิโร ที่สามารถประคองเกมได้อย่างใจเย็นในช่วงที่เกมสูสี
ตรงนี้ทีมชาติไทยต้องเรียนรู้และตอบตัวเองให้ได้ว่า จะแก้ปัญหาอย่างไรกับปัญหาเรื่องการครองเกมบุก ไม่ว่าจะเป็น ระบบการแข่งขันภายในประเทศที่ส่งเสริมการเล่นตำแหน่งนี้ การคัดเลือกผู้เล่น หรือ แม้แต่ดาวรุ่งที่จะปั้นในยุคต่อๆ ไป
ทีเด็ดเดิมพันบาสเก็ตบอลที่ดีที่สุดต้องที่ SBOBET เท่านั้น !!!!
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของ บาสเกตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน