เปิดทำเนียบดาวยิงสูงสุด ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยูโร
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1960 ส่วนครั้งล่าสุดของเกมลูกหนังยุโรป เกิดขึ้นในปี 2020 ซึ่งแชมป์ตกเป็นของอิตาลี ซึ่งนับตั้งแต่ปี 1960 เป็นต้นมา ต่างมีผู้เล่นระเบิดฟอร์มฝากผลงานถล่มประตูในหน้าประวัติศาสตร์ถ้วยแชมป์ยุโรปมากมาย ก่อนที่ ยูโร 2024 จะเริ่มต้นขึ้น เคยมีใครทำประตูสูงสุดในแต่ละครั้งกันบ้าง
และนี่คือทำเนียบผู้ทำประตูสูงสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ยูโร
1960 – 2 ประตู : มิลาน กาลิช, ฟร็องซัว อ็อตต์, วาเลนติน อิวานอฟ, ดราแซน เยอร์โควิช และ วิคเจอต์ โพเนเดลนิค
1964 – 2 ประตู เฟเรนซ์ เบน, เดซโซ โนวัค, ชุส เปเรดา
1968 – 2 ประตู ดราแกน ดซายิช
1972 – 4 ประตู แกร์ด มุลเลอร์
เยอรมนีตะวันตก คว้าแชมป์ยูโรครั้งแรกในปี 1972 และแกร์ด มุลเลอร์ ก็ทำได้ 4 ประตู ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของทัวร์นาเมนต์นี้ เพราะก่อนหน้านั้น ผู้เล่นที่ทำประตูสูงสุด ณ เวลานั้นยิงได้แค่ 2 ประตู โดยอดีตกองหน้า บาเยิร์น มิวนิค ทำสองประตูในชัยชนะเหนือเบลเยียม 2-1 ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่จะทำสองประตูในการชนะสหภาพโซเวียต 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศ
เจ้าของบัลลงดอร์ปี 1970 จบอาชีพค้าแข้งในทีมชาติด้วยการยิงไป 68 ประตูจาก 62 นัด ช่วยให้ทีมชาติของเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกและยูโรได้สำเร็จ มุลเลอร์ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในดาวซัลโวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล
1976 – 4 ประตู ดีเทอร์ มุลเลอร์
1980 – 3 ประตู เคลาส์ อัลลอฟส์
1984 – 9 ประตู มิเชล พลาตินี่
มิเชล พลาตินี คือหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดตลอดกาล โดยได้รับรางวัลบัลลงดอร์ถึงสามครั้งติดต่อกัน นักเตะชาวฝรั่งเศสรายนี้อยู่ในอันดับที่ 7 จากการโหวตของ FIFA Player of the Century ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงชื่อเสียงความเป็นตำนานของเขา โดยยูโร 1984 ทำให้พลาตินี่ก้าวไปถึงจุดสูงสุดของอาชีพค้าแข้ง หลังจากยิงได้ 9 ประตู ไม่มีผู้เล่นคนใดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันที่ยิงได้มากไปกว่านี้ในทัวร์นาเมนต์เดียว
เขาเป็นกัปตันทีมฝรั่งเศส ที่พาทีมคว้าแชมป์ยูโรได้เป็นครั้งแรก และทำแฮตทริกสองเกมติดต่อกันในเกมกับเบลเยียมและยูโกสลาเวีย พลาตินีทำประตูเปิดเกมในรอบชิงชนะเลิศด้วยฟรีคิก ก่อนที่ บรูโน่ เบลลอน จะบวกประตูที่สองเพื่อเอาชนะสเปน 2-0 ที่ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์
1988 – 5 ประตู มาร์โก ฟาน บาสเท่น
เนเธอร์แลนด์คว้าแชมป์ยูโรเป็นครั้งแรกในปี 1988 และ ฟาน บาสเท่น สตาร์ดังของพวกเขาคว้ารางวัลรองเท้าทองคำหลังจากยิงไป 5 ประตูในครั้งนั้น กองหน้าชาวดัตช์ทำแฮตทริกใส่อังกฤษในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่จะทำประตูในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศกับเยอรมนีและสหภาพโซเวียต การยิงวอลเลย์ของเขาในรอบชิงชนะเลิศถือเป็นหนึ่งในประตูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และแน่นอนว่าเป็นหนึ่งในประตูที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลดัตช์ เพราะมันทำให้ทีมชาติของเขาคว้าแชมป์เมเจอร์ครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงตอนนี้
1992 – 3 ประตู เดนนิส เบิร์กแคมป์, โธมัส โบรลิน, เฮนริค ลาร์สเซ่น, คาร์ล ไฮนซ์ รีดเล่
เบิร์กแคมป์ ตำนานอาร์เซนอลครองอันดับดาวซัลโวสูงสุดร่วมใน ยูโร 1992 ขณะที่ทีมเนเธอร์แลนด์ของเขาเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่จะพ่ายแพ้ต่อเดนมาร์กจากการดวลจุดโทษ ตัวรุกที่สร้างสรรค์ของทัพอัศวินสีส้มทำประตูใส่สกอตแลนด์ในเกมแรก, เยอรมนีในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย และทัพโคนมดังที่กล่าวไปข้างต้นในรอบรองชนะเลิศ
ส่วน โธมัส โบรลิน ของ สวีเดน เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่ทีมสวีเดนของเขาจะแพ้เยอรมนี 2-3 โดยศูนย์หน้าของปาร์ม่าในขณะนั้นทำประตูในการเอาชนะเดนมาร์กและอังกฤษในรอบแบ่งกลุ่ม และยังยิงอีกหนึ่งลูกในนัดที่พ่ายแพ้ต่อ เยอรมัน ของ แบร์ตี้ โฟกท์สในรอบรองชนะเลิศด้วย
เฮนริก ลาร์สเซ่น กองหน้าของ เดนมาร์ก ที่ผ่านเข้ารอบทัวร์นาเมนต์นี้หลังจากที่ยูโกสลาเวียถูกตัดสิทธิ์ ก็สามารถสร้างความปั่นป่วนอันน่าอัศจรรย์ออกมาและคว้าแชมป์ยูโรได้ ระหว่างเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ เฮนริก ลาร์สเซ่น ทำประตูให้ เดนมาร์ก เอาชนะฝรั่งเศส 2-1 และทำสองประตูใส่เนเธอร์แลนด์ในรอบรองชนะเลิศ
คาร์ล-ไฮนซ์ รีดเล่ แข้งทีมชาติเยอรมนีทำประตูในชัยชนะ 2-0 กับสกอตแลนด์ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่จะทำตาข่ายอีกสองครั้งกับสวีเดนในรอบรองชนะเลิศ ท้ายที่สุด แม้จะชนะรางวัลรองเท้าทองคำร่วมกัน แต่ทัวร์นาเมนต์ของเขาก็จบลงด้วยความอกหัก เมื่อเยอรมนีพ่ายแพ้อย่างน่าตกใจต่อเดนมาร์ก 0-2 ในรอบชิงชนะเลิศ
1996 – 5 ประตู อลัน เชียเรอร์
2000 – 5 พาทริค ไคลเวิร์ต, ซาโว มิโลเซวิช
2004 – 5 ประตูู มิลาน บารอส
2008 – 4 ประตู ดาบิด บีย่า
เวลานั้นถือเป็นยุคทองของทีมชาติสเปนในเวทีระดับนานาชาติ ทัพกระทิงดุ คว้าแชมป์ยูโร เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ 4 ประตูของ ดาบิด บีย่า นั้นเพียงพอที่จะทำให้เขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำ โดยเจ้าตัวทำแฮตทริกในเกมเปิดสนามรอบแบ่งกลุ่มกับ รัสเซีย ก่อนที่จะทำประตูใส่สวีเดนในเกมที่สอง
2012 – 3 ประตู เฟร์นานโด ตอร์เรส
ตอร์เรส ยิง 3 ประตูในยูโร 2012 พา สเปน คว้าแชมป์ ยูโร สมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ พวกเขายังกลายเป็นชาติแรกที่คว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์สองสมัยติดต่อกันหลังจากคว้าแชมป์ในปี 2008 โดยกองหน้าที่ไม่คงเส้นคงวาของเชลซีทำสองประตูใส่ไอร์แลนด์ในรอบแบ่งกลุ่ม และทำประตูในนัดชิงชนะเลิศที่พบกับอิตาลี
2016 – 6 ประตู อองตวน กรีซมันน์
กรีซมันน์ มีทัวร์นาเมนต์ที่ยอดเยี่ยมในยูโร 2016 โดยยิงได้ 6 ประตูและ 2 แอสซิสต์ ตัวรุกชาวฝรั่งเศสทำประตูใส่แอลเบเนียในรอบแบ่งกลุ่มก่อนทำสองประตูในชัยชนะเหนือไอร์แลนด์ 2-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่องในรอบต่อๆ มา
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดาย เมื่อท้ายที่สุด เขาต้องอกหักเมื่อโปรตุเกสเอาชนะ ฝรั่งเศส 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ โดย เอแดร์ ทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ
2020 – 5 ประตู คริสเตียโน่ โรนัลโด้
โรนัลโด้ ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกีฬาชนิดนี้ ได้รับรางวัลรองเท้าทองคำในยูโร 2020 หลังจากยิงได้ 5 ประตู โดยกองหน้าระดับตำนานชาวโปรตุเกสทำสองประตูใส่ฮังการีในเกมเปิดสนามรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่จะทำประตูใส่เยอรมนีพร้อมกับทำแอสซิสต์ด้วย
ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม โรนัลโด้ ยิงเพิ่มอีกสองประตูในการเจอกับแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 อย่างฝรั่งเศส เป็นการเสมอกัน 4 ประตูอันน่าตื่นเต้น การแข่งขันของ โรนัลโด้ จบลงในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อโปรตุเกสพ่ายแพ้เบลเยียม 1-0 และสำหรับแฟนๆที่สนใจ ทีเด็ด SBOTOP และ ยูโร 2024 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง ยูโร 2024 ผลการแข่งขัน สามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน