สเปน กับความสำเร็จภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้
หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ พาทีมชาติสเปน คว้าแชมป์ ยูโร 2024 ด้วยชัยชนะเหนือ อังกฤษ ซึ่งถือเป็นแชมป์ลูกหนังยุโรปสมัยที่ 4 ของพวกเขา
ความสำเร็จในศึกถ้วยแชมป์ยุโรปของทัพกระทิงดุ เรียกได้ว่า เต็มไปด้วยการเล่นที่สวยงาม ดุดัน และน่าสนใจว่าทีมชุดนี้จะไปได้ไกลแค่ไหนต่อจากนี้ แน่นอนว่า เด ลา ฟวนเต้ คือหนึ่งในกุนซือที่โชว์แทคติกในยูโรครั้งนี้ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งมันมาจากตั้งแต่การคัดเลือกผู้เล่นของเขา
เด ลา ฟวนเต้ ตัดสินใจที่จะเลือกใช้งาน นิโก้ วิลเลียมส์ ที่ติดทีมมาตั้งแต่รอบคัดเลือก พร้อมด้วยสายเลือดใหม่อย่าง เฟร์มิน โลเปซ, ลามีน ยามาล และ ดานี่ โอลโม่ ซึ่งถือเป็นขุมกำลังเกมรุกที่ไม่ได้มีประสบการณ์ลงเล่นให้กับสเปนชุดใหญ่มากนัก แต่ เด ลา ฟวนเต้ เชื่อมั่นว่าผู้เล่นที่เขาเลือกมาจะนำพาทีมไปสู่ชัยชนะ และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ…
ตลอดทัวร์นาเมนต์ ไลน์อัพของสเปนไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยเฉพาะเกมรุก ยามาล, วิลเลียมส์ และ อัลบาโร่ โมราต้า มักถูกจับลงเป็น 3 ประสาน โดยมี เปดรี้ หรือ ดานี่ โอลโม่ ซึ่งสิ่งที่ทำให้นักเตะของสเปนเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมคือให้อิสระที่มากพอที่ผู้เล่นจะสามารถใส่จิตนาการหรือไอเดียการสร้างสรรค์เกมลงไปได้
แน่นอนว่า เขาต้องการพึ่งพาพรสวรรค์ของนักเตะด้วย ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในระหว่างการแข่งขันครั้งนี้ มันสามารถนำพาสเปนไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง หลังจากชูถ้วยรางวัลนี้ในปี 2008 และ 2012 โครงสร้างของทีมถูกปรับปรุงมานานแล้วและในที่สุดก็เริ่มเห็นผล สเปนเป็นทีมที่แพ้ยาก และมีผู้เล่นที่แข็งแกร่งในแต่ละตำแหน่ง
อย่างไรก็ตามในเกมกับอังกฤษ ทีมชาติสเปน ต้องทำงานหนักและจัดระบบให้มากกว่าเดิม เพื่อจำกัดความแข็งแกร่งในการเล่นเกมรุกของอังกฤษจากปีกและในกรอบเขตโทษ กับการหาทางหยุด แฮร์รี่ เคน, จู๊ด เบลลิงแฮม, บูกาโย่ ซาก้า และ ฟิล โฟเด้น หรือ โคล พาลเมอร์
ในเกมนัดชิงชนะเลิศ รูปแบบการเล่นที่ดีของอังกฤษในช่วงแรกถูกหยุดในครึ่งหลัง เมื่อ โรดรี้ ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งแรก เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ เด ลา ฟวนเต้ ได้เพิ่มจุดเปลี่ยนตัวที่สอง เพื่อเติมเต็มการหายไปของกองกลางจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดย มาร์ติน ซูบิเมนดี้ ลงเล่นเคียงข้าง ฟาเบียน รุยซ์ ทำให้หนึ่งในตัวปั้นเกมของ อังกฤษ อย่าง ฟิล โฟเด้น ต้องเผชิญการประกบ 2 ต่อ 1
ดานี่ โอลโม่ กลายเป็นผู้เล่นที่ขับเคลื่อนเกมได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพะวงหลัง เมื่อมีตัวคอยเก็บกวาดอยู่ด้านหลัง ส่วน นิโก้ วิลเลียมส์ มีอิสระในการขึ้นเกมเช่นกัน เมื่อมี ลามีน ยามาล ช่วยเติมเกมรุกอีกข้างก็ทำให้ อังกฤษ ต้องเจอเกมบุกสุดอันตรายภายใต้แทคติกของ เด ลา ฟวนเต้ ก่อนที่สุดท้าย สเปน จะคว้าแชมป์สำเร็จ โดย โรดรี้ ได้รับรางวัลแข้งยอดเยี่ยม ส่วน ยามาล คว้าดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
ทีมของ เด ลา ฟวนเต้ ชนะทั้ง 7 เกม ใน ยูโร 2024 พร้อมได้รับคำชมสำหรับวิธีที่เขามอบพลังให้กับ นิโค วิลเลียมส์ แข้งวัย 21 ปี และ ลามีน ยามาลวัย 17 ปี โดยตอนนี้มีรายงานว่า เด ลา ฟวนเต้ ได้ขยายสัญญาคุมสเปนออกไปแล้ว เพื่อให้อยู่ในบทบาทเก้าอี้กุนซือจนถึงปี 2026
ฝีมือการคุมทีมของ เด ลา ฟวนเต้ พิสูจน์แล้วว่า เขาสามารถพาทีมกลับไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้ อีกทั้งทีมที่เขาสร้างขึ้นสามารถต่อยอดไปได้ไกลกว่านี้ในฟุตบอลโลก 2026 โดยโค้ชทีมชาติสเปนที่เพิ่งพาทีมโชว์ฟอร์มโดดเด่นในยูโร 2024 มีความสนใจที่จะเป็นโค้ชฟุตบอลชายทีมชาติสหรัฐอเมริกา ตามรายงานของวอชิงตันโพสต์ อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเรื่องของอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ และสำหรับแฟนๆที่สนใจ ทีเด็ด ยูโร 2024 และ ยูโร 2024 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง ยูโร 2024 ผลการแข่งขัน สามารถ
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน