การกลับมาของ เลสเตอร์ ซิตี้
เลสเตอร์ ซิตี้ กลับสู่พรีเมียร์ลีก 2024/25 อีกครั้ง ในฐานะแชมป์ลีกรอง หรือ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ หลังจากที่ต้องลงเล่นไปเล่นในลีกรองของลีกลูกหนังแดนผู้ดีหนึ่งฤดูกาลเต็มๆ
ในเกมนัดสุดท้าย แซมมี่ ซโมดิกส์ ทำสองประตูในครึ่งหลังให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส สร้างความพ่ายแพ้ในบ้านต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-2 แต่นั่นไม่ได้ทำให้จิตใจของแข้ง ‘จิ้งจอกสยาม’ ต้องซึมเศร้า เมื่อลูกทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ได้รับถ้วยรางวัล EFL เป็นที่แน่นอนแล้ว
ความสำเร็จของ เลสเตอร์ ในครั้งนี้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ เมื่อยังไม่มีทีมใดที่คว้าแชมป์ลีกรองได้เกิน 8 สมัย มันเป็นฤดูกาลแห่งประวัติศาสตร์สำหรับทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า อย่างแท้จริง
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อถึงครึ่งทางของฤดูกาลจากการลงเล่นไป 23 นัด จิ้งจอกมีคะแนนเฉลี่ย 2.51 แต้มต่อเกม และจบฤดูกาลพวกเขาเก็บแต้มได้รวม 97 คะแนน นับเป็นคะแนนสะสมที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองของสโมสร โดยมีเพียงฤดูกาล 2013/14 เท่านั้นที่พวกเขาได้แชมป์โดยเก็บแต้มได้มากกว่านี้ นั่นก็คือ 102 คะแนนด้วยกัน
การกลับมาครั้งนี้ของ เลสเตอร์ ยังมาพร้อมกับความยอดเยี่ยมที่พวกเขาทำได้ทั้งภาพรวมผลงานทีม และผลงานส่วนตัวของนักเตะ โดย 20 ประตู เป็นจำนวนทั้งหมดที่ เจมี่ วาร์ดี้ ทำได้ในทุกรายการ แข้งวัย 37 ปีทำสองประตูใส่ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ในนัดรองสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งเป็นการการันตีว่าเลสเตอร์คือแชมป์ของ เดอะ แชมป์เปี้ยนชิพ และตอกย้ำตัวเองอีกครั้งว่า เขาคือตำนานหมายเลข 9 ของสโมสรอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน นี่ยังเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้ยิง 20 ประตูต่อหนึ่งฤดูกาลให้กับสโมสร และด้วยการทำประตูในฤดูกาลนี้ ส่งผลให้เขาก้าวขึ้นสู่อันดับ 3 ในทำเนียบผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของ เลสเตอร์ ซิตี้ โดยทำได้ 190 ประตูในระดับอาชีพให้กับสโมสรแห่งนี้
เลสเตอร์ ซิตี้ มีผลงานที่ยอดเยี่ยมกับเส้นทางการเลื่อนชั้นของพวกเขา เมื่อมีสถิติชนะติดต่อกันยาวนานที่สุดของลีกในฤดูกาลนี้คือ 9 นัด จากการเอาชนะเซาแธมป์ตัน 4-1 ที่สนามเซนต์ แมรี่ส์ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2023 ไปจนถึงการเอาชนะควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 2-1 ที่ลอฟตัส โร้ด เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2023 เป็นสถิติร่วมของสโมสรในการคว้าชัยชนะในลีกติดต่อกัน เท่ากับที่เคยทำได้ในฤดูกาล 2013/14
ไม่เพียงเท่านั้น เลสเตอร์ ยังทำลายสถิติของสโมสรอีกสถิติหนึ่ง นั่นคือการเก็บชัยชนะในเกมเยือนในลีกติดต่อกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ 7 เกม
นอกจากนี้ พวกเขายังเสียประตูน้อยที่สุดในลีก (41 ประตู) และเป็นทีมที่ทำประตูสูงสุดเป็นอันดับสองของลีก (89 ประตู) รองจาก อิปสวิช ทาวน์ ที่ทำได้ 92 ประตู และยังทำสถิติเป็นทีมที่ทำเก็บแต้มเกมเยือนดีที่สุดใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาล 2023/24 ด้วยคะแนน 45 คะแนน (ชนะ 14 เสมอ 3 แพ้ 6)
และแน่นอนว่า หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เลสเตอร์ เลื่อนชั้นสำเร็จในปีเดียวคือการมาของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า…
กุนซือชาวอิตาลีได้รับการแต่งตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ก่อนจะพาทีมฉลองถ้วยแชมป์พร้อมสิทธิ์ในการกลับไปเล่นในลีกสูงสุดซีซั่นหน้า
“มหัศจรรย์ มันมหัศจรรย์มาก” มาเรสก้า เปิดเผยความรู้สึก หลังทีมของเขาคว้าแชมป์ “ผลงานนี้ผมขอมอบให้กับแฟนบอลของเราผู้เศร้าโศกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ผมคิดว่ามันน่าจะชดเชยความรู้สึกให้พวกเขาได้พอสมควร มันยิ่งใหญ่มาก ผมภูมิใจมาก เราทำงานทุกวันเพื่อจะได้ใช้ชีวิตแบบนี้”
“การแบ่งปันความรู้สึกกับแฟนๆ มันยอดเยี่ยมมาก เราได้คืนความสุขให้กับพวกเขาในสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ เจ้าของทีมก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน เราทุกคนมีความสุขมาก”
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ เลสเตอร์ จะมีอนาคตที่แน่นอนกับการเลื่อนชั้นไปเล่นฟุตบอลลีกอังกฤษ แต่พวกเขาก็คงไม่มี มาเรสก้า คุมทีมอีกต่อไป หลังเจ้าตัวตกเป็นข่าวกับ เชลซี แต่ทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไป… และสำหรับแฟนๆที่สนใจ ทีเด็ด SBOTOP และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024 ผลการแข่งขัน สามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน