เป็นค่ำคืนที่มีเกมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่
เมื่อแชมเปี้ยนส์ลีกถึงขีดสุดของความมันส์ แฟนการเดิมพันกีฬาต่างพึงพอใจและสนุกไปกับการแข่งขันคืนนี้
เกิดทั้งความผิดหวังและการพลิกเกมมาชนะที่น่าทึ่งในสตาดิโอโอลิมปิโก้ กับการพ่ายของแชมป์สเปน รวมถึงชัยชนะที่เอทิฮัดสเตเดี้ยมที่ส่งให้แชมป์พรีเมียร์ลีกต้องพ่ายตกรอบ
แมนเชสเตอร์ซิตี้ 1-2 (1-5 ประตูรวม) ลิเวอร์พูล
มันเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับค่ำคืนที่น่าเบิกบานใจในการเดิมพันสด
การยิงประตูได้จากความพยายามครั้งแรกในแค่สองนาทีเป็นการเริ่มเกมที่แมนซิตี้คาดหวังไว้และเป็นสิ่งที่ลิเวอร์พูลกลัวไม่อยากให้เกิด
ไม่ว่าจังหวะการเข้าแย่งบอลของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์คควรจะเป็นลูกฟรีคิกหรือไม่นั้นยากจะบอกได้ แต่เจ้าบ้านก็ใช้ประโยชน์จากจังหวะนี้ ราฮิม สเตอร์ลิงเปิดให้กาเบรียล เชซุสยิงจุดประกายความหวังให้เจ้าบ้าน
สนามเอทิฮัดสั่นสะเทือนและลิเวอร์พูลดูจะชะงักไป
แบร์นาร์โด้ ซิลวายิงชนเสา เรือใบสีฟ้าเดิมเกมบุกอยู่ข้างเดียวก่อนที่เลรอย ซาเน่จะยิงเข้าไปแต่กรรมการไม่ให้เป็นประตู
เกมอาจเปลี่ยนทิศเข้าข้างเรือใบสีฟ้าหากทีมจากเมอร์ซี่ไซด์เสียอีกประตู แต่พวกเขาก็ป้องกันไว้ได้และกลับมาสร้างความผิดหวังให้แมนซิตี้ได้
เป๊ป กวาดิโอล่าไม่พอใจกับการตัดสินบางจังหวะ และเข้าไปพูดคุยกับกรรมการเมื่อหมดครึ่งแรก ทำให้เขาต้องถูกไล่ออกจากขอบสนามไป
นั่นนำมาซึ่งจุดจบของเกมนี้
หลังจากเริ่มครึ่งหลังได้สิบเอ็ดนาที จากการบุกไม่กี่ครั้งในเกมนี้ของลิเวอร์พูล โมฮัมเม็ด ซาลาห์ชิปสวยๆ ตีเสมอได้สำเร็จ
ประตูที่ 39 ของดาวยิงชาวอียิปต์ในฤดูกาลนี้ทำลายความหวังของแฟนทีมเจ้าบ้านลง
ลิเวอร์พูลเพิ่งเริ่มกลับสู่เกม แต่ต่างจากแมนซิตี้ที่แอนด์ฟิลด์สัปดาห์ที่แล้ว พวกเขามีความได้เปรียบจากอเวย์โกล์ และพวกเขาก็ยังไม่ผ่อนเครื่อง
โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่บวกอีกประตูทำให้ประตูรวมเป็นห้าประตูก่อนหมดเวลา 13 นาที และแมนซิตี้ก็ดูจะเริ่มท้อเมื่อลูกยิงอีกลูกของซาเน่ถูกปฏิเสธให้เป็นประตูจากการล้ำหน้า ดูเหมือนลูกทีมของกวาดิโอล่าจะรักษาสกอร์เสมอเหมือนครึ่งแรกไม่สำเร็จ
ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในเลกแรกของลิเวอร์พูล และผลงานที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันในเลกสองนี้จากการเล่นเกมสวนกลับที่สุดยอดและทะลวงเกมรับของแมนซิตี้ทำให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบสี่ทีมสุดท้ายสำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ
เจอร์เกน คล็อปป์ทำผลงานได้เหนือกว่าอดีตคู่แข่งจากบุนเดสลีกาอย่างเป๊ป กวาดิโอล่าอีกครั้ง
อาแอสโรม่า 3-0 (4-4 ประตูรวม) บาร์เซโลน่า
คอสตาส มาโนลาส – จำชื่อนี้ไว้ให้ดี!
ลูกโหม่งของเขาก่อนหมดเวลาเจ็ดนาทีน่าจะใกล้เคียงที่จะเรียกว่าปาฏิหาริย์ในแวดวงกีฬาก็ว่าได้
เมื่อเสียงนกหวีดหมดเวลาดังขึ้น สตาดิโอโอลิมปิโก้ก็แทบถล่มทลาย
ดูเหมือนว่าบาร์เซโลน่าจะถูกเขียนภาพให้ดูน่ายำเกรงมากไป
ผมคิดมานานแล้วว่าบาร์ซ่าในปี 2018 ขาดนักเตะคุณภาพไม่เหมือนในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวรับ แต่ผลงานที่ไร้คู่เปรียบของพวกเขาในลาลีกาทำให้ความคิดนี้ของผมดูตลกไปหน่อย
แต่ข้อโต้เถียงนี้เป็นเรื่องของเมื่อวาน และไม่ควรนำมาลดคุณค่าของค่ำคืนแห่งความฝันที่แฟนเจ้าบ้านแทบจะเชื่อได้ยากในความสำเร็จนี้ของตน
ในช่วงเวลาสั้นๆ โรม่าอาจรู้สึกว่าพวกเขายังไม่หมดโอกาสเมื่อเอดิน เชโก้ยังคงฟอร์มที่ยอดเยี่ยมด้วยการยิงให้ทีมขึ้นนำหลังผ่านไปหกนาที
เมื่อเชโก้ล้มลงในกรอบเขตโทษในช่วงต้นครึ่งหลัง ดานิเอเล่ เด รอสซี่ที่ยิงประตูที่ลืมไม่ลงในเลกแรก ก้าวเข้ามาซัดลูกจุดโทษเข้าไป
แต่บาร์ซ่าก็ยังน่าจะกลับมาได้ไม่ใช่เหรอ?
คราวนี้ไม่ใช่
ผู้เล่น 11 คนแรกชุดเดียวกับที่ชนะมาในเลกแรกหกวันก่อนถูกพิชิตลงได้ โรม่ากลายเป็นทีมที่สามในประวัติศาสตร์แชมเปี้ยนส์ลีกที่สามารถกลับมาชนะได้เมื่อถูกนำอยู่สามประตูหรือมากกว่า
หายนะในกรุงโรม บาร์เซโลน่าตกรอบและไม่มีใครที่ดูเกมนี้จะปฏิเสธได้ว่ายูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้และลูกทีมคู่ควรกับชัยชนะนัดนี้
หากต้องการทราบข่าวกีฬา โปรโมชั่น และข้อแนะนำการเลือกเดิมพันล่าสุดจาก SBOBET เข้าร่วมกับเราทางโซเชียลกับบัญชีทางการของเราได้ทั้ง Twitter, Google+, YouTube และ Facebook แวะชมเว็บไซต์ SBOBET และสมัครเป็นสมาชิกกับเราได้เลย เริ่มวางเดิมพันได้แล้ววันนี้!
คลิกเพื่อรับทราบตัวเลือก การพนันฟุตบอล เพิ่มเติม
